วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ฆาตกรแห่งชีวา






                                      ยาเสพติดมหันตภัยร้าย       ผลาญทำลายชีวิตเศร้ามัวหมอง
                                เพราะฉะนั้นจึงอย่าคิดริลอง      คึกคะนองมั่วสุมไปติดยา 
                                ยาเสพติดทำลายทั้งครอบครัว  รวมถึงตัวผู้เสพเสื่อมหนักหนา 
                                ยาเสพติดฆาตกรแห่งชีวา         จะไร้ค่าถ้าชีวิตติดยาเอย



  สิ่งเสพติด คือ ยาประเภทหนึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้ผู้ได้รับมีความต้องการมากขึ้นเรื่อย โดยจะเข้าสู่ร่างกายโดยการ กิน สูบ ฉีด หรือดม ผลของสิ่งเสพติดต่อการทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกายของผู้เสพจะเกิดโทษต่างๆ เช่น 



     1. บุหรี่ ในบุหรี่มีสารนิโคติน ซึ่งจะระเหยออกมาพร้อมกับควันบุหรี่ สารนิโคติน จะเป็นอันตรายต่อหัวใจ ระบบประสาท อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ เป็นต้น 



     2. น้ำชา กาแฟ จะมีสารคาเฟอีน ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้รู้สึกสดชื่นหายง่วง 




     3. สุรา เครื่องดื่มทุกชนิด ที่ดื่มแล้วทำให้มันเมา ในสุรามีแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย เมื่อแอลกอฮอล์เข้าไปในกระแสเลือด เลือดก็จะนำไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ถ้าเราดื่มมากๆ อาจจะทำให้เป็นโรคตับแข็ง และยังเป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหาร ลำไส้ ปอด เป็นต้น 




     4. ยาบ้า หรือ แอมเฟตามีน มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทและสมอง ทำให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เมื่อหมดฤทธิ์ยาจะทำให้มึนงง นอนไม่หลับ ตกใจง่าย อ่อนล้า คลุ้มคลั่ง ประสาท หลอน คลื่นไส้ อาเจียน อาจถึงขั้นหลอดเลือดในสมองแตกและหัวใจวาย 




     5. สารระเหย เป็นสารเคมีที่ระเหยง่าย ในอุณหภูมิปกติจะพบในรูปของตัวทำละลาย เช่น ทินเนอร์ น้ำยาล้างเล็บ กาว เป็นต้น เมื่อร่างกายรับสารระเหยเข้าไปในระยะแรก จะเกิดอาการตื่นเต้น ร่าเริงต่อมาจะมีอาการมึนงง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จะง่วงซึมและหมดสติในที่สุด 



     6. กัญชา เป็นพืชล้มลุก ในใบ ดอก ลำต้นกัญชาจะมีสารเสพติดที่เป็นน้ำมัน เมื่อรับเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้กล้ามเนื้อสั่น กระตุก ปวดร้าว สมองมึนงง ความคิดสับสน กระหายน้ำ หวาดผวา เป็นอันตรายต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อของร่างกาย 




     7. ฝิ่น ได้จากเปลือกผลดิบมีลักษณะเป็นยาง เรียกว่า ฝิ่นดิบ นำมาเคี่ยวให้สุกมีสีดำ รสชาติขม ฝิ่นมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้จิตใจเสื่อมโทรม 




     8. มอร์ฟีน มีลักษณะเป็นผงสีขาว หรือเหลืองอ่อน ละลายน้ำง่ายไม่มีกลิ่น เป็นสารสกัดที่ได้จากฝิ่น แต่มีฤทธิ์รุนแรงกว่า 8 - 10 เท่ามีฤทธิ์กดประสาทและสมองทำให้ศูนย์ประสาทรับความรู้สึกชา สามารถนำมาใช้วงการแพทย์ใช้สำหรับระงับความเจ็บปวดแก่ผู้ป่วย 




     9. เฮโรอีน สกัดจากมอร์ฟีน แต่มีฤทธิ์ร้ายแรงกว่า 10 เท่า เป็นสิ่งเสพติดที่ติดได้ง่าย เสพเพียง 1 - 2 ครั้งก็สามารถติดได้ เฮโรอีนสามารถแบ่งได้ 2 ชนิด คือ
- เฮโรอีนบริสุทธิ์ หรือผงขาว มีลักษณะเป็นผงสีขาวไม่มีกลิ่น รสชาติขมจัด
- เฮโรอีนไม่บริสุทธิ์ หรือเฮโรอีนผสม หรือ ไอระเหย มีสีต่างๆ เช่น ชมพู สีม่วง มีลักษณะเป็นเกล็ด เสพเข้าร่างกายโดยวิธีการสูบไอระเหย เข้าไปตามระบบทางเดินลมหายใจ 





 ผลเสีย ของสารเสพติด สามารถสรุปได้ดังนี้
1. ต่อตัวเอง ร่างกายทรุดโทรม ทำให้เกิดโรค สมองเสื่อม เสียบุคลิกภาพ
2. ต่อสังคมและประเทศชาติ เพราะประเทศต้องเลี้ยงดู รักษา ผู้ที่ติดสารเสพติดเป็นจำนวนมาก เป็นภาระต่อสังคม ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม ทำให้สูญเสียแรงงานของชาติ สูญเสียงบประมาณของประเทศ
3. ต่อครอบครัว ทำให้สิ้นเปลือง ขาดความรับผิดชอบ ทำให้เสียชื่อเสียง เป็นภาระของผู้อื่น บางรายหลังจากที่มีการเสพเข้าไปแล้ว จะมีการทำร้ายบุคคลในครอบครัว หรือบางรายไมมีเงินซื้อสิ่งเหล่านี้มาเสพจะเกิดการลักขโมย ทำร้ายผู้อื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินที่จะนำไปซื้อยาเสพติด


 สาเหตุ ของการติดสิ่งเสพติด
 1. อยากลอง อยากรู้ อยากสัมผัส 
2. ถูกชักชวน ถูกหลอกลวง ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
3. สาเหตุมาจากครอบครัว ขาดความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัว
4. จากสื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ ภาพยนตร์ทำให้เด็กประพฤติตาม




ลักษณะ ของผู้ติดยา
1. สุขภาพทรุดโทรม ผอม ซูบซีด เจ็บป่วยง่าย ตาแดง ตาโรย น้ำมูลไหล น้ำตาไหล
2. มีร่องรอยการเสพยาตามร่างกาย นิ้วมือมีคราบเหลืองมีรอยการเสพยาด้วยเข็ม
3. ผิวหนังหยาบกร้าน เป็นแผลพุพอง เป็นหนอง น้ำเหลืองคล้ายคนเป็นโรคผิวหนัง



พฤติกรรม ของผู้ติดสิ่งเสพติด
1. ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ชอบแยกตัวเอง
2. แต่งกายไม่เรียบร้อย สกปรก
3. สีหน้าแสดงความวิตก ซึมเศร้า ไม่กล้าที่จะสู้หน้าคน
4. เมื่อขาดยา มีอาการกระวนกระวาย หายใจลึก กล้ามเนื้อกระตุก ทุรนทุราย คลุ้มคลั่ง



การป้องกัน การเสพยาเสพติด
1. เลือกคบเพื่อนที่ดี หลีกเลี่ยงการคบเพื่อนที่ติดสิ่งเสพติด
2. ไม่ทดลอง สิ่งเสพติดทุกชนิด
3. เล่นกีฬา ออกกำลังกาย หากิจกรรมนันทนาการเล่นเมื่อมีเวลาว่าง
4. สถาบันการศึกษาควรให้การอบรมเกี่ยวกับโทษของยาเสพติด
5. ควรมีความอบอุ่นแก่ครอบครัว ดูแลสมาชิกในครอบครัว อย่างใกล้ชิด
6. เมื่อมีปัญหาควรที่จะปรึกษาผู้ใหญ่



 วันต่อต้านยาเสพติดโลก 
  
"....ยาเสพติดนี่มันก่อให้เกิดความเดือดร้อนหลายอย่าง โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ทั้งราชการ ตำรวจ โดยโรงพยาบาล โดยคน เอกชนต่าง ๆ เดือดร้อนหมด และสิ้นเปลือง คนทั่วประเทศก็สิ้นเปลือง แทนที่จะมีเงินทอง มีทุนมาสร้างบ้านเมืองให้สบาย ให้เจริญ มัวแต่ต้องมาปราบปราม ยาเสพติด มัวแต่ต้องเสียเงินค่าดูแลรักษาทั้งผู้เสพยา ผู้เป็นคนเดือดร้อนอย่างนี้ก็เสียทั้งเงินและเสียทั้งชื่อเสียง....." พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลาดุสิตาลัย วันที่ 4 ธันวาคม 2545

          เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติทั่วโลก ประเทศต่าง ๆ จึงได้พยายามร่วมมือกันเพื่อหาทางหยุดยั้งปัญหายาเสพติด โดยในการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการใช้ยาในทางที่ผิด และการลักลอบใช้ยาเสพติด (International Conference on Drug Abuse and licit Trafficking ICDAIT) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ระหว่าง วันที่ 17-26 มิถุนายน 2530 ที่ประชุมได้มีมติให้เสนอสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations General Assembly) ขอให้กำหนดวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปีเป็น"วันต่อต้านยาเสพติดโลก" 

          ทั้งนี้ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอดังกล่าวในการประชุมเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2530 โดยเหตุที่กำหนดวันที่นี้เพื่อเป็นที่ระลึกแก่การถอนสัมปทานการค้าฝิ่นโดยนายอำเภอ หลิน เจ๋อสวี ตำบลหู่เหมิน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ก่อนสงครามฝิ่นครั้งแรก 
        
วันต่อต้านยาเสพติดในประเทศไทย          
     สำหรับประเทศไทยก็ได้เผชิญกับปัญหา "ยาเสพติด" มาเป็นเวลานาน รัฐบาลในแต่ละยุคได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดมาตลอด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2501 คณะปฏิวัติภายใต้การนำของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ออกประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 37 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2501 ให้เลิกการสูบฝิ่นทั่วราชอาณาจักรโดยมีการเผาทำลายฝิ่นและอุปกรณ์การสูบฝิ่นที่ท้องสนามหลวงในคืนวันที่ 30 มิถุนายน 2502 หลังจากนั้นปี พ.ศ. 2504 รัฐบาลได้จัดตั้ง "คณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดให้โทษ" ใช้ชื่อย่อว่า กปส. สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีโดยมีอธิบดีกรมตำรวจเป็นประธาน และมีผู้แทนจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ
          ต่อมาในสมัยนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรีรัฐบาลได้เล็งเห็นว่า การปราบปรามยาเสพติดไม่สามารถแก้ไขได้โดยการดำเนินการเฉพาะกรมตำรวจฝ่ายเดียว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 ต่อสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน และประกาศใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2519

          ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยก็ได้ดำเนินไปอย่างมีแบบแผนและเป็นระบบที่ดีขึ้น พระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดให้มี "คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด" หรือเรียกชื่อย่อว่า ป.ป.ส. โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ส. ขึ้นเป็นหน่วยงานกลางรับผิดชอบโดยตรง มีฐานะเป็นกรม กรมหนึ่งในสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

          สำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศมาโดยตลอด และได้นำมติเรื่องวันต่อต้านยาเสพติดขององค์การสหประชาชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2531 ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กำหนดวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา


 วันต่อต้านยาเสพติด 2555
          เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 รัฐบาลกำหนดให้หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติ ตลอดปี 2555 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่ทรงห่วงใยต่อปัญหายาเสพติดศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ หรือ ศพส. จึงให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด 26 มิถุนายน ประจำปี 2555 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา 


           สำหรับศิลปินนักร้องนักแสดงที่สำนักงาน ป.ป.ส. คัดเลือกให้มาเป็นตัวแทนศิลปินต้านยาเสพติดปี 2555 ได้แก่
           -แก้มบุ๋ม พิมพ์นิภา จิตติธีรโรจน์
          - เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี
          - พรีม รณิดา เตชสิทธิ์
          - เก้า จิรายุ ละอองมณี
          - ฉัตร ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร

           คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติด 2555
          คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติด 2555 คือ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เทิดไท้ ๘๐ พรรษา มหาราชินี

 วันต่อต้านยาเสพติด 2554

          คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด ประจำปี 2554 เพื่อให้ประชาชนรับรู้ รับทราบ และเห็นถึงความสำคัญของโทษ และพิษภัยยาเสพติด เนื่องจากปัญหายาเสพติด จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกัน ดำเนินงานด้านการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ไม่เพียงแต่จะทำให้ปัญหาเบาบางลง ยังเป็นการเทิดพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 และทรงเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยแนวทางการพัฒนาทางเลือกอีกด้วย
           สำหรับศิลปินนักร้องนักแสดงที่สำนักงาน ป.ป.ส. คัดเลือกให้มาเป็นตัวแทนศิลปินต้านยาเสพติดปี 2554 ได้แก่
          - น้ำฝน พัชรินทร์ จัดกระบวนพล
          - มีน พีชยา วัฒนามนตรี 

          - หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ  
          - รถเมล์ คนึงนิจ จักรสมิทธานนท์
          - อั๋น วิทยา วสุไกนไพศาล  

            คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติด 2554
          คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติด 2554 คือ สานต่อพระราชปณิธาน หยุดยั้งยาเสพติด หยุดหายนะแผ่นดิน

 วันต่อต้านยาเสพติด 2553         
       รัฐบาลได้ประกาศนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดภายใต้ยุทธศาสตร์5รั้วป้องกันฯ เป็นยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินงาน และเพื่อเร่งรัดให้การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปตามนโยบายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง สามารถลดระดับปัญหายาเสพติดและขจัดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดให้มีแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับชาติเป็นแผนงานหลัก เรียกว่า "ปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 2"
          ทั้งนี้มีเป้าหมายในการลดระดับปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ กรุงเทพปริมณฑล และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลดปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกชุมชน-ประชาสังคม และเสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภาวะวิกฤติ

           สำหรับศิลปินนักร้องนักแสดงที่สำนักงาน ป.ป.ส. คัดเลือกให้มาเป็นตัวแทนศิลปินต้านยาเสพติดปี 2553 ได้แก่

          - 
น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์
          - ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์
          - อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตน์
          - มาร์กี้ ราศรี บาเลนซิเอก้า
          - โจ AF2 ภานุพล เอกเพชร

           คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติด 2553
          คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติด 2553 คือ ไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติด



วันต่อต้านยาเสพติด ปี 52          
     สำหรับวันต่อต้านยาเสพติดปีนี้ รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน เพื่อเป็นเกราะป้องกันยาเสพติดทุกระดับ ภายใต้แนวคิด "5 รั้วล้อมไทย พ้นภัยยาเสพติด" โดยตั้งทีมทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยงานภาคีด้านยาเสพติด ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งผลปฏิบัติการพบว่า สถิติการจับกุมยาเสพติดมีมากขึ้น แต่ละเดือนสามารถสกัดยาเสพติดได้เป็นแสนเม็ด โดยเฉพาะรั้วชายแดนที่สำคัญที่สุด เพราะยาเสพติดที่ใช้ในไทย ไม่ได้ผลิตในไทย แต่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ การสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาทางแนวชายแดนจึงเป็นการป้องกันที่สำคัญมาก 
          ทั้งนี้ จะมีการจัดงานมหกรรม "5 รั้วล้อมไทย พ้นภัยยาเสพติด" ที่เมืองทองธานี ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องยาเสพติดให้กับประชาชน ชุมชน และเยาวชน  
           สำหรับศิลปินนักร้องนักแสดงที่สำนักงาน ป.ป.ส. คัดเลือกให้มาเป็นตัวแทนศิลปินต้านยาเสพติดปี 2552 ได้แก่

          - 
คูณ คณิน บัตติยา เป็นตัวแทนรั้วชายแดน
          - รุจ ศุภรุจ เตชะตานนท์ (รุจ-เดอะสตาร์) เป็นตัวแทนรั้วชุมชน 

          - ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ เป็นตัวแทนรั้วสังคม 

          - 
พลอย ชิดจันทร์ รุจิพรรณ ตัวแทนรั้วโรงเรียน 

          - 
แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ ตัวแทนรั้วครอบครัว

วันต่อต้านยาเสพติด

            คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติด 2550 - 2552

          
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติดสากล ยังคงสโลแกนเดิม (เพราะมีกำหนดใช้ปี พ.ศ. 2550 – 2552) คือ

          "Do drugs control your life? Your life. Your community. No place for drugs" ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า "ยาเสพติดครอบงำชีวิตของคุณอยู่หรือเปล่า ชีวิตของคุณ สังคมของคุณ ต้องไม่มีที่สำหรับยาเสพติด"          ส่วนคำขวัญต่อต้านยาเสพติดของไทย ประจำปี 2552 คือ "ผิดช่วยรั้ง พลั้งช่วยเตือน แนะนำเพื่อน อย่าคิดลองยา"
          โห... เห็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราร่วมมือร่วมใจกันคว่ำบาตรยาเสพติดด้วยโครงการต่าง ๆ กันขนาดนี้ เยาวชนอนาคตประเทศทั้งหลายก็ต้องช่วยกันอีกแรงด้วยนะจ๊ะ เพราะหากทุกฝ่ายในสังคมร่วมกัน อนาคตลูกหลานเหลนโหลนของเราคงจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหายาเสพติดอีก 


ขอบคุณ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น